ตลาดเศษเหล็กในเดือนตุลาคม 2024 เผชิญกับการปรับตัวลดลงในหลายประเภทเนื่องจากปัจจัยด้านอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา การหยุดงานของสหภาพแรงงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ส่งผลให้ความต้องการเหล็กลดลง ขณะเดียวกัน ตลาดอุตสาหกรรมก่อสร้างยังคงอยู่ในช่วงชะลอตัว ส่งผลต่อความต้องการเหล็กสำหรับการผลิตและซ่อมแซมโครงสร้างในประเทศ ทำให้ดัชนีราคาของเศษเหล็กปรับตัวลดลงจากระดับที่เคยสูงในเดือนก่อนหน้า(
ScrapMonster)(
จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญด้านโลหะและการรีไซเคิล พบว่าราคาเหล็กเกรด “prime scrap” อาจเป็นเกรดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในเดือนนี้ เนื่องจากความต้องการจากโรงงานผลิตโลหะในสหรัฐฯ ลดลง และมีการปรับแผนการผลิตเพื่อลดต้นทุน อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าราคาของเศษเหล็กในกลุ่มอื่นๆ เช่น เศษเหล็กจากยานยนต์หรือเหล็กก่อสร้าง จะมีแนวโน้มทรงตัวหรือปรับตัวลดลงเล็กน้อยเท่านั้น(
ScrapMonster)(
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคาเศษเหล็ก
ในขณะที่เศษเหล็กในตลาดภายในประเทศเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยเศรษฐกิจและการหยุดงาน ตลาดการส่งออกยังคงมีความต้องการที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะจากตุรกี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ซื้อเศษเหล็กรายใหญ่ของโลก แม้ว่าราคาในตลาดต่างประเทศจะยังคงทรงตัวในช่วงเดือนที่ผ่านมา แต่การส่งออกเหล็กของสหรัฐฯ ไปยังตุรกีเพิ่มขึ้นในเดือนกันยายน 2024 ด้วยความต้องการสินค้าประเภทเหล็กเกรดต่ำที่ยังมีอยู่มาก(
นอกจากนี้ การคาดการณ์ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้ามีแนวโน้มเป็นบวก โดยตลาดคาดว่าราคาของเศษเหล็กจะปรับตัวสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้างและการผลิตที่กำลังเริ่มกลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้งในปี 2024 โดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกว่า 54% มองว่าราคาของเศษเหล็กจะสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2024(
Fastmarkets)(
สรุปทิศทางในอนาคต
แม้ว่าเดือนตุลาคม 2024 จะเป็นเดือนที่เศษเหล็กเผชิญกับแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของความต้องการในตลาดในประเทศ แต่ตลาดต่างประเทศและการฟื้นตัวในอนาคตอันใกล้ยังคงส่งสัญญาณบวก ทั้งนี้ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเหล็กและโลหะรีไซเคิลจำเป็นต้องเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงในตลาดอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมปรับตัวตามปัจจัยที่ส่งผลต่ออุปสงค์และอุปทานในตลาดโลก(