รูปแบบการขยายสาขาของนักลงทุนกับGLG (Franchise & Partnership Model)

1. รูปแบบแฟรนไชส์ (Franchise Model)

✅ เหมาะสำหรับ: ต้องการให้ผู้ลงทุนดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์ GLG และทำงานตามมาตรฐานที่กำหนด
✅ ลักษณะ: บริษัทให้สิทธิ์แก่ผู้ลงทุนในการใช้แบรนด์, ระบบ, เทคโนโลยี และโมเดลธุรกิจของ GLG

🔹 ตัวเลือกแพ็กเกจแฟรนไชส์

1. แฟรนไชส์ขนาดเล็ก (Small Recycling Hub) – สำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเปิดร้านรับซื้อของเก่า

2. แฟรนไชส์ขนาดกลาง (Standard Recycling Center) – สำหรับนักลงทุนที่ต้องการมีศูนย์กลางรับซื้อและคัดแยกวัสดุ

3. แฟรนไชส์ขนาดใหญ่ (Industrial Recycling & Trading Hub) – สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเปิดศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่และรับซื้อขายแร่

💰 ค่าแฟรนไชส์ (Franchise Fee)

• ค่าแรกเข้า (Initial Fee)

• ค่าสิทธิ์ในการใช้แบรนด์และระบบ (Royalty Fee)

• ค่าอบรมและให้คำปรึกษา

📌 ข้อดีของแฟรนไชส์

• ใช้ระบบและแบรนด์ที่แข็งแกร่ง

• บริษัทสนับสนุนด้านการตลาดและระบบการดำเนินงาน

• มีมาตรฐานและแนวทางที่ชัดเจน

2. รูปแบบพาร์ทเนอร์ร่วมทุน (Joint Venture Partnership)

✅ เหมาะสำหรับ: นักลงทุนที่ต้องการลงทุนร่วมกับ GLG โดยมีการแบ่งผลประโยชน์กัน
✅ ลักษณะ: ผู้ลงทุนและ GLG ร่วมกันเปิดศูนย์รับซื้อหรือศูนย์กระจายสินค้าภายใต้ชื่อ GLG

🔹 รูปแบบการลงทุน

• ผู้ลงทุนถือหุ้นร่วมกับบริษัทในสัดส่วนที่ตกลงกัน

• บริษัทช่วยสนับสนุนด้านเทคนิค ระบบงาน และตลาด

📌 ข้อดีของพาร์ทเนอร์ร่วมทุน

• มีส่วนแบ่งผลกำไรที่ชัดเจน

• ผู้ลงทุนได้รับการสนับสนุนจากบริษัทโดยตรง

• ลดความเสี่ยงเพราะบริษัทช่วยบริหาร

3. รูปแบบตัวแทนรับซื้อ (Authorized Dealer / Procurement Agent)

✅ เหมาะสำหรับ: บุคคลหรือบริษัทที่ต้องการทำธุรกิจรับซื้อของเก่า หรือแร่ธาตุภายใต้ชื่อ GLG โดยไม่มีภาระค่าแฟรนไชส์สูง
✅ ลักษณะ:

• ได้รับสิทธิ์ให้ใช้ชื่อ GLG ในการดำเนินธุรกิจ

• ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่บริษัทกำหนด

• มีเงื่อนไขการส่งมอบสินค้าตามที่ตกลง

📌 ข้อดีของตัวแทนรับซื้อ

• ลงทุนต่ำกว่ารูปแบบแฟรนไชส์

• สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างอิสระในกรอบที่กำหนด

• ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์

4. รูปแบบศูนย์กระจายสินค้า (Regional Distribution Center – RDC)

✅ เหมาะสำหรับ: นักลงทุนที่ต้องการเปิดศูนย์กลางกระจายวัสดุรีไซเคิลและแร่ธาตุในแต่ละภูมิภาค
✅ ลักษณะ:

• ทำหน้าที่เป็นศูนย์รับซื้อ คัดแยก และกระจายสินค้าให้กับสาขาย่อย

• บริษัทสนับสนุนด้านระบบและการตลาด

📌 ข้อดีของศูนย์กระจายสินค้า

• มีศักยภาพในการทำกำไรสูงเพราะเป็นศูนย์กลาง

• ได้รับการสนับสนุนจาก GLG ในการดำเนินธุรกิจ

• มีโอกาสเติบโตและขยายตลาดได้รวดเร็ว

สรุป: ควรเลือกแบบไหน?

✔ หากต้องการขยายแบรนด์อย่างเป็นระบบ → เลือกแฟรนไชส์
✔ หากต้องการลงทุนร่วมกับ GLG → เลือกพาร์ทเนอร์ร่วมทุน
✔ หากต้องการเริ่มต้นธุรกิจในนาม GLG แต่ลงทุนน้อย → เลือกตัวแทนรับซื้อ
✔ หากต้องการเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้า → เลือกศูนย์กระจายสินค้า

📌 รายละเอียดการลงทุนเปิดสาขากับ GLG

แฟรนไชส์ (Franchise), พาร์ทเนอร์ร่วมทุน (Joint Venture), ตัวแทนรับซื้อ (Authorized Dealer), และ ศูนย์กระจายสินค้า (Regional Distribution Center – RDC)  ค่าใช้จ่าย, สัญญา, และแนวทางการดำเนินงาน

1. ค่าใช้จ่ายในการลงทุนแต่ละรูปแบบ

💡 หมายเหตุ: ราคาขึ้นอยู่กับ ทำเลที่ตั้ง, ขนาดของธุรกิจ, และประเภทของเศษวัสดุ ที่ต้องการรับซื้อ

2. รูปแบบสัญญาการร่วมธุรกิจ

สัญญาที่ใช้จะแตกต่างกันไปตามประเภทการลงทุน (แฟรนไชส์, พาร์ทเนอร์ร่วมทุน, ตัวแทนรับซื้อ ฯลฯ) โดยมีเงื่อนไขหลักดังนี้

✅ (A) สัญญาแฟรนไชส์ (Franchise Agreement)

เงื่อนไขสำคัญ:

• ระยะเวลาสัญญา 3-5 ปี (ต่ออายุได้)

• ผู้ลงทุนต้องใช้แบรนด์ GLG ตามมาตรฐานของบริษัท

• บริษัทกำหนดมาตรฐานการรับซื้อ ขาย และดำเนินงาน

• ห้ามรับซื้อสินค้านอกเหนือจากประเภทที่บริษัทอนุมัติ

• ต้องจ่าย ค่าแฟรนไชส์รายปี + Royalty Fee

✅ (B) สัญญาพาร์ทเนอร์ร่วมทุน (Joint Venture Agreement)

เงื่อนไขสำคัญ:

• ระยะเวลาสัญญา 5-10 ปี

• การแบ่งผลกำไรตามสัดส่วนการลงทุน (เช่น 50:50 หรือ 70:30)

• ผู้ลงทุนต้องดำเนินงานร่วมกับบริษัทภายใต้แบรนด์ GLG

• สามารถขายสินค้าหรือวัสดุเฉพาะที่ได้รับอนุมัติ

✅ (C) สัญญาตัวแทนรับซื้อ (Authorized Dealer Agreement)

เงื่อนไขสำคัญ:

• ระยะเวลาสัญญา 1-3 ปี

• ตัวแทนต้องซื้อสินค้ากลับไปขายให้กับ GLG เท่านั้น

• มีเป้าหมายปริมาณรับซื้อที่ต้องทำได้ต่อเดือน

• ต้องรักษามาตรฐานคุณภาพของสินค้า

✅ (D) สัญญาศูนย์กระจายสินค้า (RDC Agreement)

เงื่อนไขสำคัญ:

• ระยะเวลาสัญญา 5-10 ปี

• ศูนย์กระจายสินค้าต้องจัดการคลังสินค้าและระบบขนส่งให้มีประสิทธิภาพ

• ต้องมีพื้นที่และอุปกรณ์ที่เพียงพอสำหรับการคัดแยกสินค้า

• มีค่าธรรมเนียมการดำเนินงานที่ต้องจ่ายให้บริษัท

3. การดำเนินงานและการสนับสนุนจาก GLG

🏗 ขั้นตอนเปิดสาขา (Setup Process)

1️⃣ ยื่นใบสมัครและเลือกแพ็กเกจการลงทุน
2️⃣ วิเคราะห์ทำเลและความเป็นไปได้ของธุรกิจ
3️⃣ เซ็นสัญญาและวางเงินลงทุนตามที่ตกลง
4️⃣ จัดหาสถานที่และอุปกรณ์ตามมาตรฐาน
5️⃣ อบรมพนักงานและเริ่มดำเนินธุรกิจ

📌 การสนับสนุนจาก GLG

1. ระบบบริหารจัดการ
✅ ซอฟต์แวร์ติดตามการซื้อ-ขายวัสดุ
✅ ระบบตรวจสอบสต๊อกสินค้าและการประมูล

2. การอบรมพนักงาน
✅ การคัดแยกและประเมินมูลค่าวัสดุรีไซเคิล
✅ หลักสูตรการรับซื้อและการจัดเก็บสินค้า

3. การตลาดและส่งเสริมการขาย
✅ การโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์ของ GLG
✅ การเข้าถึงฐานลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมและโรงงาน

📢 ข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ลงทุนรายแรก ๆ

✅ รับสิทธิ์เปิดสาขานำร่อง โดยไม่มีค่าแฟรนไชส์ 6 เดือนแรก
✅ สนับสนุนอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ฟรีในช่วงเริ่มต้น

💡 สนใจร่วมลงทุนกับ GLG? ติดต่อเราเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม!